วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

วิจารณ์หนัง"รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"


เรื่องย่อ รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ


    สภาพจราจรในปี 2552 ยังเป็นปัญหาหนักอกของคนกรุงเทพฯ ด้วยแม้จะมีถนน สะพาน ทางด่วนใหม่ๆผุดขึ้นหลายต่อหลายสาย ผิวจราจรเหล่านั้นก็ยังติดขัดและไม่เพียงพอต่อความต้องการ...ถนนในกทม.ก็เหมือนหนุ่มหล่อแสนดี ที่มีน้อยและไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ!

    เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นสาวอายุ 30 ที่มีพฤติกรรมป่วนประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ การเมาในงานแต่งงานเพื่อน เพราะมันช่างตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตโสดสนิทไร้ชายใดมาแผ้วพานของลี่ วันหนึ่งหลังลากสังขารกลับจากการส่งเพื่อนสาวสุดซี้เข้าห้องหอ ลี่ขับรถเสยเข้ากับแผงโจ๊กในตลาดโต้รุ่ง ส่งผลให้รถเก๋งคันงามของเธอถูกป๊าผู้ต่อต้านแอลกอฮอลล์ทุกชนิดขายทิ้ง โทษฐานเมาแล้วขับ

       ชีวิตที่ไม่มีชายหนุ่มคอยไปรับไปส่งอย่างลี่ จึงต้องออกไปผจญการจราจรสุดโหดของเมืองบางกอกเพียงลำพัง แต่ละวันลี่ต้องปากกัดตีนถีบ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ โบกแท็กซี่ โหนรถเมล์ โดดลงเรือ ฯลฯ สารพันความเมื่อยล้าจากการเดินทางแบบเมก้าฮิตทำให้เวลานอนของลี่แปรปรวน คืนหนึ่งลี่ตื่นมากลางดึกและแอบขึ้นไปกินเบียร์บนดาดฟ้า โชคดีปนร้าย ลี่บังเอิญไปเจอลูกจ้างชายหญิงกำลังแสดง ‘หนังสด’ กันอยู่ กลายเป็นคดีอื้อฉาวกลางดึกที่นำพาให้ลี่ได้พบกับ ลุง (เคน – ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) วิศกร Maintenance แห่งรถไฟฟ้า BTS
การได้พบกับผู้ชายชื่อแปลกคนนี้แบบไม่เมา ในคืนต่อมาทำให้ลี่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในสามสิบฝน ในหัวลี่อัดแน่นด้วยคำถาม “ผู้ชายที่ทั้งขาว ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ไหงถึงมาซ่อนตัวทำงานรถไฟฟ้ากะดึกอยู่อย่างนี้” ลี่รู้สึกราวลุง คือ ขุมทรัพย์ที่เธอบังเอิญไปพบลายแทงเข้า หากเธอไม่ลงมือทำอะไร ไม่ทำในสิ่งที่ใจต้องการ เธออาจกลายเป็นหญิงโสดคนสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร

ลี่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเคยคิดแต่ไม่กล้าลงมือ นั่นคือ การจีบผู้ชายก่อน แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดจีบอย่างลี่ ไหนจะเวลาไม่ตรงกันจนเหมือนอยู่คนละโลกของเขากับเธอ ไหนจะถูก เพลิน (แพท - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวน้อยข้างบ้านหักหลัง แปรพักตร์จากครูไปเป็นคู่แข่งความรัก ไหนลุงจะมีถ่านไฟเก่าเป็นถึงนางเอกละครหลังข่าวอันดับหนึ่ง!
แต่ไม่ว่าจะต้องผจญอุปสรรคไหนๆ ลี่ก็ไม่คิดถอดใจ
................ตั๋วรักรถไฟ(ฟ้า) เที่ยวสุดท้ายใบนี้ ลี่สาบานว่าจะไม่ยอมให้หลุดมือเด็ดขาด!.......................

แหล่งที่มา :  http://www.thaicinema.org/reviewsth72bts.asp



--------------------อาจารย์และเพื่อนๆดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง  ^^---------------------

            ต้องยอมรับเลยว่าเป็นคนไม่ชอบดูหนังภาพยนตร์  ปีหนึ่งนับครั้งได้เลยว่าดูกี่เรื่อง แต่เหตุผลที่ไปดูหนังเรื่องนี้ก็เพราะว่า  ตอนนั้นที่บ้านซื้อแผ่นซูมมาดู แล้ว พอดูเสร็จก็เกิดติดใจ เลยยกขโยงกันไปดูที่โรงภาพยนตร์ ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สมจริงกว่า และเสียงซาวแทรคที่คมชัดเหมือนมีพระเอกนางเอกมาพูดอยู่ข้างๆ (ขนาดนั้นเชียว 5 5+)
           นอกจากภาพยนตร์เรื่อง "The little จดหมายรัก" แล้ว ยังไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่สร้างความประทับใจเท่ากับเรื่องนี้เลย เหตุผลคงเป็นเพราะว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ไกลจากความจริงเท่าไร่ ถ้าจะเดาว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองตัวเองแล้วคิดว่า หน้าตาเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร การศึกษาก็ไม่ได้แย่อะไร งานการก็มีทำ แถมยังมีจิตใจดีงามรักเพื่อน รักสัตว์ รักเด็ก มีอารมณ์ขัน เป็นพลเมืองดีของสังคม แต่ทำมั้ยทำไม(วะ) ถึงยังไม่มีแฟนกับเขาสักที และคงจะไม่ไกลความจริงอีกเท่าไร่ ถ้าจะเดาอีกว่า ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่แอบฝัน ว่าสักวันจะได้เจอหนุ่มหล่อ เท่ อบอุ่น แววตาน่าเคลิ้ม อย่าง “เคน ธีรเดช” ที่จะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยให้พ้นจากความทุกข์จากการถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง และสุดท้ายก็สมหวังครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดกาลนานแฮปปี้เอ็นดิ้ง เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นตัวแทนของสาวโสดวัยใกล้ 30 ทุกคนที่ไม่อย่ากโสด พร้อมที่จะรักใครสักคนแต่ยังไม่มีใครให้รักสักที จนกระทั้งคืนวันส่งตัวเจ้าสาวของเพื่อนสนิท ที่ตัวเองเกิดอาการเมาเละจนขับรถประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย อันเป็นเหตุให้ได้เจอกับ ลุง (เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) หนุ่มวิศวกรบีทีเอส ซึ่งเป็นสุภาพบุรุษในฝัน และความรักทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น และ ด้วยความน่ารัก เปิ่นๆ ฮาๆ ของนางเอกทำให้หนังเรื่องนี้ดำเนินไปได้อย่างแนบเนียน 5 5+
              และหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้เวอร์เหมือนหนังรักทั่วๆไป เพราะพระเอก นั้น หล่อขั้นเทพขนาดนี้แต่ทำไมยังไม่มีแฟน ไม่ใช่ไม่มีใครเอา เพราะพระเอกเคยมีแฟนมาแล้วเป็นถึงระดับนางเอกหนัง คือ "กบ"(แอฟ ทักษอร) แต่เหตุผลที่เลิกกันคือ พระเอกไม่มีเวลาให้ ต่อให้หล่อ รวยขนาดไหน แต่ถ้าไม่มีเวลาให้กันความจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร  ขนาดนางเอก เหมยลี่ยังต้องถอยเลย
              ตอนจบของหนังเรื่องนี้ จบได้เซอร์ไพรส์คนดูมากๆ เพราะคนที่ไม่มีติดต่อกันเป็นปีแล้วบังเอินมาเจอกันบนรถไฟฟ้า และ พระเอกก็เป็นคนสานต่อความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ด้วยประโยคทีว่า "คุณลี่ครับ .. สงกรานต์นี้ ยังว่างอยู่หรือเปล่าครับ" (ประโยคนี้โดนมากกกกกก!) 5 5+
             
   ต้องบอกว่าเป็นหนังที่สมแล้วกับรายได้ 150 ล้านบาท (เปิดตัววันแรกได้ 14 ล้านบ้าน) คุ้มกับค่าตั๋วและเวลาที่เข้าไปดูจริงๆ คนที่เดินออกจากโรงต้องได้รอยยิ้ม อิ่มเอิบกลับบ้านแน่นอน ^^



รถไฟฟ้ามาหานะเธอ : Boxset

1 ความคิดเห็น: